Page 129 - หนังสือ สัตว์หน้าดิน นิเวศวิทยาและการใช้ประโยชน์
P. 129

การเก็บและวิเคราะห์ตัวอย่างสัตว์หน้าดิน                                                111



                           ดริฟท์เน็ท (Drift net samplers) ดังภาพที่ 4.13 ใช้บริเวณล าธารน ้าไหลเพื่อดักจับสัตว์หน้าดินที่มี

                  พฤติกรรมการอพยพ หรือพวกที่หลุดจากพื้นท้องน ้าอยู่ในกระแสน ้า Drift net เป็นเครื่องมือที่ท าด้วยตาข่ายที่
                  มีขนาดตาใกล้เคียงกับตะแกรงร่อนมาตรฐานของสหรัฐอเมเริกาเบอร์ 30 (มีขนาดช่องตาข่ายประมาณ 0.595

                  มิลลิเมตร) เวลาใช้ต้องคอยน าสิ่งมีชีวิตเก็บใส่ขวดเก็บตัวอย่าง และควรเก็บตะกอนที่ติดอยู่ในตาข่ายออก เพื่อ

                  ป้องกันการอุดตันและกีดขวางการไหลของน ้าในตาข่ายได้






















                  ภาพที่ 4.13  (ก) ดริฟท์เน็ท (Drift net samplers) (ข) การใช้ดริฟท์เน็ทเก็บตัวอย่างในล าธาร

                             ที่มา:  (ก) https://www.fondriest.com/watermark-77929.htm
                                   (ข) http://www.rickly.com/as/images/WILDCONE.JPG


                  4.4 วิธีการเก็บตัวอย่างสัตว์หน้าดินในแหล่งน ้า

                           ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าการส ารวจเอกสารหรือการทบทวนงานวิจัยมีความส าคัญมาก เพื่อเป็นข้อมูล

                  เบื้องต้นใช้ประกอบการวางแผนในการเก็บตัวอย่างสัตว์หน้าดินในบริเวณที่ศึกษา ซึ่งรวมถึงการก าหนดสถานี
                  วิธีการเก็บตัวอย่างและเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บตัวอย่าง รวมถึงจ านวนตัวอย่างที่เก็บเพื่อเป็นตัวแทนที่ถูกต้อง

                  ของบริเวณที่ศึกษา เครื่องมือที่นิยมใช้ในการเก็บตัวอย่างในแหล่งน ้าจืด เช่น ล าธาร แม่น ้า ทะเลสาบหรืออ่าง

                  เก็บน ้า ได้แก่ เครื่องมือประเภทตักดิน (grabs) ซึ่งต้องใช้เรือเพื่อหย่อนเครื่องมือตักดินหรือหย่อนเครื่องมือจาก
                  บริเวณท่าเรือหรือสะพาน ในการศึกษาภาคสนามนั้นทักษะการสังเกต (observations) เป็นเครื่องมือที่ส าคัญ

                  เป็นสิ่งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนควรมีเพื่อให้ได้ข้อมูล ดังเช่นอริสโตเติล (Aristotle) เป็นบุคคลที่มี

                  ความส าคัญยิ่งคนหนึ่งในประวัติการศึกษาชีววิทยา อริสโตเติลเป็นนักชีววิทยาเอกของโลกคนหนึ่งซึ่งเกิดใน
                  ศตวรรษที่ 4 ในสมัยนั้นไม่มีเครื่องมือที่จะช่วยในการศึกษาต้องอาศัยแค่มือทั้งสองและตาหนึ่งคู่ของท่านเท่านั้น

                  อริสโตเติลเป็นผู้ชักน าระบบการเรียนแบบการแสวงหาความรู้ (inquiry) มาใช้ในวงการวิทยาศาสตร์

                  (ณิฏฐารัตน์ ปภาวสิทธิ์, 2525) วิธีการที่อริสโตเติลใช้ในการเสนอผลงานของท่านแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
                  ข้อสังเกตหรือการสังเกต (observation) ท่านจะบันทึกและบรรยายรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ ที่ท่านพบเห็นใน

                  ธรรมชาติและมักวาดภาพประกอบไว้ด้วย จากนั้นท่านจะมีการสรุปผลหรือเสนอทฤษฎี (deduction or
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134